วันพุธที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ภาวะไข้น้ำนม

   
สวัสดีวันพฤหัสบดี สิ้นเดือนตุลาคมค่ะ วันเวลาผ่านไปเร็วจริงๆค่ะ อีก 2 เดือนก็จะสิ้นปีอีกแล้ว หลังจากเมื่อวานเราคุยกันถึงภาวะการคลอดยากในสุนัขกันไปแล้ว วันนี้เราจะมาคุยกันถึงภาวะไข้น้ำนม ซึ่งเป็นภาวะที่เกิดหลังจากคลอดลูกหรือกำลังเลี้ยงลูกอยู่นั่นเองค่ะ

ภาวะไข้น้ำนม คือ ภาวะที่ระดับแคลเซี่ยมในร่างกายแม่สุนัขต่ำลง แม่สุนัขที่ให้นมลูก จะสูญเสียแคลเซี่ยมผ่านทางน้ำนมอย่างรวดเร็ว ซึ่งในสุนัขสายพันธุ์เล็กจะมีความเสี่ยงในการเกิดภาวะแคลเซี่ยมต่ำมากกว่าสุนัขพันธุ์ใหญ่

อาการของภาวะไข้น้ำนม
-    แม่สุนัขกระวนกระวาย
-    เดินไม่สัมพันธ์กัน
-    ขาแข็ง เดินไม่ได้
-    มีไข้สูง
-    กล้ามเนื้อสั่น
-    อัตราการหายใจสูง
-    ชัก และถ้าแก้ไขภาวะนี้ไม่ทัน สุนัขอาจเสียชีวิต

แนวทางการรักษาไข้น้ำนม : ควรรีบพาสุนัขไปหาสัตวแพทย์ และให้แคลเซี่ยมเข้าทางหลอดเลือด ส่วนลูกสุนัขควรเลี้ยงด้วยนมทดแทน

แนวทางการป้องกันภาวะไข้น้ำนม : ควรให้แม่สุนัขกินอาหารสำหรับแม่สุนัขให้นมลูก หรือสูตรสำหรับลูกสุนัข หรืออาจเสริมแคลเซี่ยมให้กับแม่สุนัขที่กำลังให้นมลูก

ขอขอบคุณข้อมูลจากสื่อรักสัตว์เลี้ยง

คลินิกบ้านหมากะแมวโทร 083-8959865 , 075-447775 ,
ID line cheng025
FB หมอส้มเช้ง : หมอส้มเช้ง คลินิกบ้านหมากะแมว
www.bannmhakamaeo.com

วันอังคารที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ภาวะคลอดยากในสุนัข


สวัสดีค่ะ เนื่องจากช่วงนี้มีแม่สุนัขตั้งท้องเยอะเลยค่ะ วันนี้เลยหยิบเอาเรื่องภาวะคลอดยากมาให้อ่านกันค่ะ

ภาวะคลอดยาก คือ ภาวะที่แม่สุนัขไม่สามารถเบ่งคลอดลูกสุนัขออกมาได้ มีสาเหตุหลัก อยู่ 2 ข้อด้วยกัน คือ

1.สาเหตุมาจากแม่สุนัข ได้แก่ รูปร่างและขนาดช่องเชิงกรานของแม่สุนัขที่อาจจะแคบเกินไป จนลูกผ่านออกมาไม่ได้ และภาวะมดลูกเฉื่อยในแม่สุนัข

2.สาเหตุมาจากลูกสุนัข ได้แก่ ขนาดของลูกสุนัขที่ใหญ่เกินไปจนผ่านช่องเชิงกรานไม่ได้ ลูกมีการคลอดผิดท่า เช่น หันด้านข้างหรือท้ายลำตัวออก ลูกสุนัขพิการ หรือลูกเสียชีวิตก่อนเกิด

แล้วเมื่อไหร่เราถึงจะพาแม่สุนัขไปพบสัตวแพทย์

1.เมื่อแม่สุนัขตั้งท้องเกิน 63 วัน

2.เมื่อระยะแรกของการคลอดมากกว่า 24 ชั่วโมง และยังไม่มีลูกสุนัขคลอดออกมมา

3.แม่สุนัขเบ่งคลอดมากกว่า 1 ชั่วโมง 30 นาที และยังไม่มีการคลอดตัวแรกออกมา

4.ระยะพักระหว่างการคลอดลูกตัวต่อไปนานเกิด 4 ชั่วโมง

5.มีเลือดออกจากช่องคลอดในปริมาณมาก

6.แม่สุนัขมีอาการอาเจียนและหมดแรงเบ่ง

เมื่อคุณหมอสงสัยภาวะคลอดยาก คุณหมอจะทำอะไรให้เราบ้าง

คุณหมออาจทำการตรวจช่องคลอด เอ็กซเรย์ส่วนช่องท้องเพื่อดูจำนวนลูกและท่าทางการคลอดของลูก อาจมีการอัลตร้าซาวน์เพื่อดูว่าลูกสุนัขยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ หากช่องเชิงกราน ขนาดของลูกสุนัข ท่าทางการออกของลูกสุนัขไม่มีปัญหา คุณหมออาจให้ยาเร่งคลอด แต่หากท่าทางผิดปกติ ลูกตัวใหญ่เกินไป ช่องเชิงกรานแคบ ลูกเสียชีวิต แม่สุนัขไม่มีแรงเบ่ง ก็อาจจะต้องผ่าคลอดทันทีค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลจากสื่อรักสัตว์เลี้ยง

คลินิกบ้านหมากะแมวโทร 083-8959865 , 075-447775 ,

ID line cheng025

www.bannmhakamaeo.com



วันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2557

14วิธีเหมียว...บอกรัก(ภาคจบ)


11.บอกรักด้วยเสียงเมี้ยว เมี้ยว (Cat Meowing) สังเกตได้ว่าแมวจะส่งเสียงร้องกับเจ้าของ หรือผู้คนที่เค้าต้องการปฎิสัมพันธ์ด้วย แต่กับแมวด้วยกันเองน้อยครั้งมากที่เราจะได้ยินเสียงร้องเมี้ยวเมี้ยวโต้ตอบกัน มีบางตำราบอกไว้ว่าการส่งเสียงร้องเมี้ยวเมี้ยว มักจะเป็นการแสดงความรักของแมวที่มีนิสัยเรียบร้อย เจ้าเหมียวมักจะส่งเสียงร้องเมี้ยวเมี้ยวด้วยเสียงเบาๆพร้อมทั้งกระพริบตาช้าๆไปในคราวเดียวกัน หากเขาทำแบบนี้ขอให้คุณรู้ไว้ว่าเจ้าเหมียวของคุณอยากจะบอกว่า “รักนะ เธอรักฉันไหม”

12.รักนะ มาๆ เลียตัวให้ (Cat Grooming) แมวเป็นสัตว์ที่รักสะอาด เค้าใช้เวลาส่วนใหญ่ในการเลียขนตัวเอง เพื่อทำความสะอาดร่างกายตัวเอง รวมถึงเลียให้เพื่อนแมวที่ชอบ พฤติกรรมดังกล่าวเป็นพฤติกรรมที่เจ้าของน่าจะสังเกตเห็นได้ง่ายที่สุดเลยก็ว่าได้ ในบ้านที่เลี้ยงแมวหลายตัวเวลาเราเห็นเค้าเลียตัวให้กัน เราก็รู้ได้ทันทีว่าเค้าแสดงความรักให้แก่กัน นอกจากการเลียตัวจะเป็นการแสดงความรักแล้วยังเป็นการสร้างกลิ่นให้แก่พวกเดียวกัน และเป็นการช่วยลดความเครียดให้แก่กัน ใครที่โดนเจ้าเหมียวเลียหัวเลียหน้าให้อย่าไปโกรธหรือรำคาญอาจจะจักจี้ไปบ้าง แต่ขอให้รู้ว่าเค้าแสดงความรักกับเราอยู่นะคะ

13.รักนะ ขอพ่นฉี่ตรงนี้หน่อย (Cat Spraying) ในยามที่แมวเครียด หรือวิตกกังวลหรือต้องการเรียกร้องความสนใจ เจ้าเหมียวบางตัว จะใช้วิธีสร้างอาณาเขตของตนโดยการพ่นปัสสาวะไปตามบริเวณต่างๆ เพื่อใช้ในการคลายความเครียดและเรียกร้องความสนใจ บางครั้งเจ้าตัวแสบอาจจะเลือกพ่นฉี่ตรงที่นอน เช่น เมื่อกะบะทรายสกปรกหรือเราเพิ่งเปลี่ยนผ้าปูใหม่ไป เพราะเค้าไม่ต้องการให้เราไปรักคนอื่น จึงจำเป็นจะต้องสร้างกลิ่นนี้ไว้ เพื่อจะบอกว่า “รักนะ สนใจฉันหน่อย”

14.เราหันก้นให้ แปลว่ารักนะ อย่าเข้าใจผิด (Cat Butts) แมวจะแสดงออกด้วยท่าทางแบบนี้ก็เฉพาะเมื่ออยู่กับคนที่เขาไว้ใจและรักมากที่สุดเท่านั้น คล้ายๆกับการทักทายสวัสดี เมื่อไหร่ก็ตามที่แมวของคุณกระโดดมานั่งบนตักหันก้นใส่หน้าคุณขอให้รู้ว่าเขาต้องการการชมเชยกลับ ลูบบริเวณโคนหางเขาสักนิด เพื่อเป็นสัญญาณตอบเจ้าเหมียวของคุณว่าคุณก็รักเขามากเช่นกัน

ขอขอบคุณบทความจาก VPAT NEWS แปลบทความและเรียบเรียงบทความนี้โดย สพ.ญ. ฐิติรัตน์ ไชยมี

คลินิกบ้านหมากะแมวโทร 083-8959865 , 075-447775 ,
ID line cheng025
www.bannmhakamaeo.com

อ่าน 1-10 ข้อแรกได้ที่นี่ค่ะ
http://m.facebook.com/story.php?story_fbid=718496364893948&substory_index=0&id=119047174838873

วันเสาร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2557


14วิธีเหมียว...บอกรัก(ภาคต่อ)

สวัสดีวันเสาร์ค่ะ วันนี้เอาภาคต่อวิธีการบอกรักของแมวเหมียวมาให้อ่านต่อกันค่ะ

6.แมวหาของขวัญมาให้(Cat Gifting) แมวเป็นนักล่าผู้ยิ่งใหญ่ที่ล่าทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นของเล่น แมลงสาป หนู กบ และเมื่อล่ามาได้ก็จะนึกถึงคนที่รักเสมอๆแม้ว่าจะไม่ได้เป็นของขวัญที่คุณ ปรารถนาแต่ให้เชื่อเถอะว่า เขานำมาให้คุณเพราะเขารักคุณ ถ้าไม่รักจะไม่นำเอาของขวัญพิเศษเหล่านั้นมาให้คุณอย่างแน่นอน

7.ชวนเล่น(Cat Playing) โดยในเฉพาะลูกแมว จะรักการเล่นมาก แมวบางตัวถึงกับคาบของเล่นมาใกล้ๆเราเพื่อให้เราเล่นด้วย ซึ่งหากเขาเลือกคุณเป็นเพื่อนเล่นกับเขาแล้วนั่นหมายความว่าเจ้าเหมียวพึงพอ ใจคุณมาก เห็นคุณเป็นเพื่อนที่ไว้วางใจได้ เพราะฉะนั้นโปรดจงภูมิใจและอย่าเบื่อที่จะเล่นกับเจ้าเหมียวแสนซนของคุณนะคะ

8.บอกรักโดยการนอน(Cat Sleeping) ในฐานะที่แมวเป็นแชมป์การนอนหลับ แมวมักจะนอนหลับได้ถึง 16 ชั่วโมงต่อวัน ในขณะที่แมวหลับเป็นช่วงที่มีความเสี่ยงสูงมาก ดังนั้นแมวจำเป็นต้องหาสถานที่ที่ปลอดภัยและไว้ใจได้สถานที่ที่แมวชอบส่วน ใหญ่มักจะเป็นตักอุ่นๆของเจ้าของหรือไม่หากเรานอนคว่ำก็มักจะขึ้นมา นอนบริเวณหลัง บริเวณหน้าคอมพิวเตอร์ทำงานของคุณหรือแม้แต่หน้าหนังสือที่คุณอ่านเพลินๆบาง ทีเราอาจจะต้องเมื่อยไปนิดรำคาญไปบ้างก็ขอให้เข้าใจว่า นี่ก็เป็นวิธีบอกรักของเจ้าเหมียวอีกวิธีหนึ่งเช่นกัน

9.กระพริบตาช้าๆ(Cat Eye Slow Eyes Blink) ดวงตาของแมวมีขนาดใหญ่มาก หากนำสัดส่วนดวงตาแมวเทียบขนาดตัวและหากนำสัดส่วนนั้นมาใช้ในคนพบว่าดวงตาคน จะต้องมีขนาดใหญ่ถึง 8 นิ้วดังนั้น จะเห็นได้ว่าดวงตาเป็นสิ่งสำคัญมาก ในการใช้ชีวิตเอาตัวรอดขงแมว ดังนั้นหากเจ้าเหมียวของคุณวางใบหน้าและดวงตาอันเปิดกว้างของเขาอยู่ใกล้คุณ แล้วแสดงว่าเขาไว้วางใจและหากเจ้าเหมียวของคุณ กระพริบตาช้าๆให้คุณแล้วนั่นเนสัญลักษณ์ว่า เค้ากำลังส่งจูบให้คุณอยู่

10.บอกรักด้วยหาง(Cat Meowing) สังเกตได้ว่าจะส่งเสียงร้องกับเจ้าของหรือผู้คนที่เค้าต้อการปฏิสัมพันธ์ ด้วย แต่กับแมวด้วยกันน้อยครั้งมากที่เราจะได้ยินเสียงเมี้ยว เมี้ยวตอบโต้กัน มีบางตำราบอกไว้ว่าการส่งเสียงร้องเมี้ยว เมี้ยว มักจะเป็นการแสดงความรักของแมวที่มีนิสัยเรียบร้อย เจ้าเหมียวมักจะส่งเสียงร้องเมี้ยว เมี้ยวด้วยเสียงเบาๆพร้อมทั้งกระพริบตาช้าๆไปในคราวเดียวกัน หกเค้าทำแบบนี้ ขอให้คุณรู้ว่าเจ้าเหมียวของคุณอยากจะบอกว่า “รักนะ เธอรักฉันไหม”

อีก 4 ข้อสุดท้ายขอเก็บไว้ก่อนนะคะ อิอิ ไว้มาติดตามตอนต่อไปของวิธีเหมียวบอกรักกันค่ะ
คลินิกบ้านหมากะแมวโทร 083-8959865 , 075-447775 ,
ID line cheng025
www.bannmhakamaeo.com

ติดตามอ่านภาคแรกได้ที่นี่ค่ะ
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=718035271606724&id=119047174838873&substory_index=0

วันพฤหัสบดีที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2557

14วิธีเหมียว...บอกรัก

14วิธีเหมียว...บอกรัก

วัันนี้มาดู 14 วิธีที่น้องแมวเค้าบอกรักเรากันค่ะ

1.ส่งเสียงกรนเบาๆ(Cat Purrs) เมื่อเจ้าเหมียวส่งเสียงกรนครืดๆคล้ายเสียงมอเตอร์ ส่วนใหญ่เราจะได้เสียงนี้ตอนแมวกำลังนอนหลับสบาย เสียงกรนแบบนี้แสดงถึงความสบายใจ ผ่อนคลายและมี ความสุขของเจ้าเหมียว ซึ่งเรามั่นใจได้เลยว่า หากเรากำลังอุ้มเค้าหรือเค้านอนบนตักเราแล้วส่งเสียงกรนเบาๆนั่นหมายถึงเค้า กำลังบอกว่า “เค้ารักคุณ” นะคะ

2. กลิ้งตัวไปมา (Cat Rolling) เมื่อไหร่ก็ตามที่เจ้าเหมียวทิ้งตัวลงบนพื้นแล้วกลิ้งตัวไปมานั่นคือการ แสดงออกซึ่งความรักอย่างหนึ่ง รู้ได้เลยว่าเจ้าเหมียวแสนซนของคุณกำลังชักชวนให้คุณสนใจเค้า เพื่อจะบอกว่า “รักนะ” ซึ่งท่าทางนี้เขาจะเลือกทำเฉพาะรักอย่างแท้จริงเท่านั้น

3. เอาหัวมาชน (Cat Bunting) เอาหัวมาชนเอาหน้ามาถูไถนั่นก็เป็นการแสดงออกว่า เค้ารักเราอีกแบบหนึ่ง ทั้งนี้บริเวณใบหน้าของแมวจะมีต่อมกลิ่น และจะปล่อยฟีโรโมนออกมา เพื่อแสดงความเป็นมิตร แสดงความรักและแสดงความคุ้นเคยระหว่างแมวด้วยกัน บ้านไหนเลี้ยงแมวหลายๆตัวคงเคยเห็นแมวที่สนิทๆกันชอบเอาหัวมาชนกันถูกัน นั่นก็เป็นการแสดงความรักในแบบของเหมียว นอกจากนี้เจ้าของแมวก็อาจจะเจอพฤติกรรมบอกรักอื่นๆ เช่น เวลาแมวนั่งบนตักเราแล้วเอาหัวมาชนกับคางเราบ้าง จมูกเราบ้างหรือแม้กระทั่งหน้าผากเราบ้าง ก็เป็นการแสดงความรักต่อเราด้วยเช่นกัน

4. ข่วนโซฟาหรือที่นอนของคุณ(Cat Scratching) บอกได้เลยว่าการบอกรักด้วยวิธีนี้เจ้าของแมวคงไม่มีใครชอบแน่ๆ แต่รู้หรือไม่ว่าเจ้าเหมียวตัวแสบ ใช้วิธีนี้เป็นวิธีบอกรักอีกวิธีหนึ่งเช่นกัน แมวข่วนเป็นการแสดงออกถึงการเป็นเจ้าของพื้นที่โดยใช้การข่วนบริเวณนั้น หากสังเกตต่ออีกสักนิดคุณจะพบว่าบริเวณที่เจ้าเหมียวชอบข่วนมักจะเป็นที่ ประจำของคุณเช่น โซฟาตัวโปรดที่คุณนอน เพราะเค้าอยากบอกว่า “คิดถึงจัง เมื่อไหร่จะกลับมา” รู้แบบนี้แล้วโกรธไม่ลงเลยใช่ไหมคะ

5. แมวนวด (Cat Kneading) แมวบ้านไหนชอบนวดเจ้าของ นอกจากเราจะหายเหนื่อยแล้ว เจ้าเหมียวยังแสดงความรักกับเราด้วยนะ ทั้งนี้ไม่ใช่แมวทุกตัวจะมีพฤติกรรมเป็น”แมวนวด”ได้ การแสดงออกแบบนี้ มักมีที่มาจากวัยที่เป็นลูกแมวยังดูดนมอยู่ จะเอาเท้าหน้าทั้งสองนวดๆกดๆบริเวณเต้านม เพื่อให้น้ำนมไหล ส่วนแมวโตบางตัวอาจยังคงแสดงพฤติกรรมนี้ต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อเจอของนุ่มๆนิ่มๆหรือเมื่อรู้สึกพึงพอใจ บางตำราบอกเอาไว้ว่า แมวที่นวดได้มักบ่งบอกถึงว่าเป็นแมวที่ฉลาดกว่าแมวที่ไม่เคยนวด
วันนี้ลงไว้แค่ 5 ข้อก่อนนะคะ ส่วนอีก 9 ข้อขอติดไว้ก่อน รอติดตามตอนต่อไปกันนะคะ^^

คลินิกบ้านหมากะแมวโทร 083-8959865 , 075-447775 ,
ID line cheng025
www.bannmhakamaeo.com

วันพุธที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2557

5 อันตราย ภายในบ้านที่ควรระวังต่อเจ้าแมวเหมียว

5 อันตราย ภายในบ้านที่ควรระวังต่อเจ้าแมวเหมียว

บ่อยครั้งที่เราคิดว่าการออกไปเที่ยวนอกบ้านของเจ้าแมวเหมียวเต็มไปด้วยอันตราย ทั้งโรคติดต่อ อุบัติเหตุ ยาเบื่อต่างๆ โดนสัตว์มีพิษ เป็นต้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่วันนี้เราจะมาดูกันว่าภัยในบ้านที่อาจเกิดกับเจ้าเหมียวที่เราจะต้องระวัง มีอะไรกันบ้างค่ะ

1.เครื่องใช้ไฟฟ้าและสายไฟภายในบ้าน เจ้าเหมียวมีนิสัยชอบกัดชอบแทะ ต้องระวังการกัดสายไฟเพราะเค้าโดนไฟฟ้าช้อตจนเสียชีวิตได้ค่ะ

2.อันตรายจากยาและสารเคมีในบ้าน เช่น น้ำยาล้างจาน ผงซักฟอก น้ำยาถูพื้น ยาฆ่าแมลง ยาเบื่อหนู ยากันยุง ลูกเหม็น น้ำหอม ยาสามัญประจำบ้าน โดยเฉพาะยาพาราเซตามอล ที่หากได้รับเข้าไป อาจทำให้แมวของเราเสียชีวิตได้เลยค่ะ

3.อันตรายจากพืชผักและไม้ประดับบ้าน พืชที่เป็นพิษกับแมว เช่น ว่านหางจระเข้  เงินไหลมา บอนสี บอนเขียว สาวน้อยประแป้ง โป้ยเซียน ลิลลี่ หัวหอม กระเทียม องุ่น เป็นต้นค่ะ

4.อันตรายจากอุปกรณ์ของใช้ในบ้าน แมวเป็นสัตว์ขี้เล่น มีนิสัยชอบตะปป กัด แทะและจับเหยื่อ ซึ่งบางครั้งการเล่นแบบนี้ ทำให้เกิดปัญหาจากการไปเล่นของใช้ต่างๆภายในบ้านได้ เช่น เหรียญ เข็ม ด้าย เชือก คลิปหนีบกระดาษ เบ็ดตกปลา เป็นต้น ซึ่งหากแมวกินสิ่งเหล่านี้เข้าไป จะทำให้ลำไส้ถูกของเหล่านี้ทิ่มแทง มีการอุดตันของลำไส้ได้ค่ะ

5.อันตรายจากเฟอร์นิเจอร์และของใช้ในบ้าน เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน ไม่ว่าจะเป็น ตู้ โต๊ะ ชั้นวางของ ตู้เย็น ตู้กับข้าว อันตรายจากเฟอร์นิเจอร์เหล่านี้มาจาก แมวมีนิสัยชอบแอบ ซ่อน นอนตามซอก ซึ่งเมื่อเราเปิดเปิดตู้ต่างๆ แมวอาจเข้าไปโดยที่เราไม่รู้  ทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นมาได้ ดังนั้นเราไม่ควรเปิดตู้ต่างๆทิ้งไว้ และก่อนปิดตู้ก็ควรตรวจให้แน่ใจว่าไม่มีแมวไปหลบอยู่ค่ะ

ไม่น่าเชื่อใช่มั้ยคะ ว่าสิ่งของในบ้านที่ดูจะไม่มีอันตรายอะไร อาจพรากชีวิตน้องแมวไปจากเราได้ แมวก็เหมือนเด็กน้อยที่ซุกซน และไม่รู้ว่าอันไหน สิ่งไหนเป็นอันตรายกับเค้าค่ะ เราซึ่งเป็นเจ้าของต้องหมั่นคอยระมัดระวังดูแลอย่าให้เกิดอันตรายกับเค้าค่ะ แมวไม่ได้มีเก้าชีวิตหรอกนะคะ พลาดเพียงครั้งเดียว ก็อาจไม่ได้ยินเสียงเหมียวๆอีกต่อไปค่ะ

หากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมสามารถโทรสอบถามได้ที่ 083-8959865 , 075-447775 , ID line cheng025 ค่ะ
www.bannmhakamaeo.com


ขอขอบคุณข้อมูลจาก หนังสือสื่อรักสัตว์เลี้ยงค่ะ

วันเสาร์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2557

                                  15 วิธีง่ายๆดูแลสัตว์เลี้ยงในช่วงหน้าฝน


หน้าฝนมาแล้ว ช่วงนี้ฝนตกทุกวันเลยค่ะ วันนี้ก็เลยหยิบเอาวิธีการดูแลสัตว์เลี้ยงในช่วงหน้าฝน มาฝากกันค่ะ

1.นำสัตว์เลี้ยงไปรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดต่อ เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโดยเฉพาะสัตว์เลี้ยงที่สูงอายุและอายุน้อยๆ
น้องหมา : ได้แก่ วัคซีนรวมไข้หัดสุนัข ลำไส้อักเสบและหลอดลมอักเสบติดต่อ
น้องแมว : ได้แก่ วัคซีนหัดแมวและหวัดแมว

2.ป้องกันเห็บหมัด ไม่ให้มีบนตัวสัตว์เลี้ยง เช่น การใช้แชมพูหรือยาหยอดหลังกำจัดเห็บหมัด

3.ป้องกันโรคพยาธิหนอนหัวใจ ซึ่งมีสาเหตุมาจากการที่สัตว์เลี้ยงถูกยุงกัด ซึ่งสามารถป้องกันได้โดย การใช้ยากิน ยาฉีด หรือ ยาหยอดหลัง

4.ดูแลให้ผิวหนังและขนของสัตว์เลี้ยงแห้งตลอดเวลา

5.ระวังอย่าให้น้ำสกปรกกระเด็นเข้าตาหรือเข้าหู เพราะอาจทำให้เจ็บตาหรือหูอักเสบได้

6.ให้กินอาหารคุณภาพสูง ระดับเกรดพรีเมี่ยมขึ้นไป เพื่อเสริมสร้างให้สุขภาพแข็งแรง แต่ระวังอย่าให้มากเกินไปนะคะ เพราะอาจจะทำให้อ้วนได้ค่ะ

7.ห้ามปล่อยให้สุนัขและแมว ออกไปกินน้ำที่ท่วมขังอยู่นอกบ้านโดยเด็ดขาด เพราะอาจทำให้ท้องเสียได้

8.เฝ้าระวังอันตรายจากสัตว์มีพิษ เช่น งู ตะขาบ แมลงป่อง

9.ห้ามป้อนยาแก้หวัดหรือยาลดไข้ให้สัตว์เลี้ยงก่อนปรึกษาสัตวแพทย์โดยเด็ดขาด โดยเฉพาะยาพาราเซตามอล เป็นยาที่มีอันตรายต่อแมวอย่างรุนแรง

10.ควรหาเสื้อผ้าสวมใส่ให้น้องหมาน้องแมว เพื่อทำให้ร่างกายอบอุ่น

11.ในกรณีที่ฝนตกฟ้าคะนอง ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า เจ้าของควรพาน้องหมาน้องแมวมาอยู่ใกล้ๆ เพราะเค้าอาจจะเครียดและตื่นกลัวเสียงดังกล่าวได้ อาจจะเปิดทีวีเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ

12.หากสัตว์เลี้ยงมีอาการคัน ขนร่วง หรือมีกลิ่นตัวแรงผิดปกติ ให้พาสัตว์เลี้ยงไปพบสัตวแพทย์ เพราะแสดงว่าสัตว์เลี้ยงอาจป่วยด้วยโรคผิวหนังเพราะอากาศชื้นในหน้าฝน

13.ดูแลให้ที่หลับที่นอน เช่น พื้นกรง เบาะปูนอน แห้งและอบอุ่น

14.ควรถ่ายพยาธิสัตว์เลี้ยง เพื่อป้องกันพยาธิลำไส้ที่อาจติดมา

15.อาจให้สัตว์เลี้ยงกินวิตามินบำรุงร่างกายเพื่อช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายอีกทางหนึ่งค่ะ

ถ้าเจ้าของท่านใดดูแลน้องหมาน้องแมวได้ตาม 15 วิธีข้างต้น รับรองเลยค่ะ ว่าสัตว์เลี้ยงของเราจะมีสุขภาพดีตลอดหน้าฝนแน่นอนค่ะ 
 
หากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมสามารถโทรสอบถามได้ที่ 083-8959865 , 075-447775 , ID line cheng025 ค่ะ
โรงพยาบาลสัตว์บ้านหมากะแมว นครศรีธรรมราชค่ะ
www.bannmhakamaeo.com

ขอขอบคุณข้อมูลจาก หนังสือสื่อรักสัตว์เลี้ยงค่ะ